มอเตอร์ไฟฟ้าคืออะไร มีกี่ชนิด ใช้งานอย่างไร
มอเตอร์ไฟฟ้า คืออะไร มีกี่ชนิด ใช้งานอย่างไร
มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล มอเตอร์ไฟฟ้าถูกใช้อย่างแพร่หลายในงานหลากหลายประเภท เช่น งานอุตสาหกรรม งานระบบควบคุมอัตโนมัติ งานหุ่นยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถแบ่งออกเป็นสองชนิดหลัก ๆ ตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Motor) และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Motor)
ชนิดของมอเตอร์ไฟฟ้า
มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Motor)
มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ หรือ A.C. Motor (Alternating Current Motor) เป็นมอเตอร์ที่ทำงานด้วยกระแสไฟฟ้ากระแสสลับ โดยโครงสร้างหลักประกอบด้วยสองส่วน ได้แก่:
-
สเตเตอร์ (Stator): ส่วนที่อยู่กับที่ มีขดลวดที่สร้างสนามแม่เหล็กเมื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าไป
-
โรเตอร์ (Rotor): ส่วนที่หมุน ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล
ชนิดของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ
-
มอเตอร์ซิงโครนัส (Synchronous Motor):
-
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเร็วรอบคงที่ เช่น งานปั่นไฟและระบบควบคุม
-
ความเร็วรอบของโรเตอร์จะสัมพันธ์กับความถี่ของกระแสไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์
-
-
มอเตอร์อินดักชัน (Induction Motor):
-
นิยมใช้งานมากที่สุด เนื่องจากมีโครงสร้างที่ง่ายและราคาไม่สูง
-
แบ่งออกเป็น 3 ชนิดย่อย:
-
มอเตอร์อินดักชันตัวหมุนกรงกระรอก (Squirrel Cage Induction Motor): ใช้ในเครื่องจักรที่ต้องการความเร็วรอบคงที่
-
มอเตอร์อินดักชันตัวหมุนพันด้วยขดลวด: มีความยืดหยุ่นในการปรับแรงบิด
-
มอเตอร์อินดักชันตัวหมุนแบบเหล็กตัน: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงบิดสูง
-
-
มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Motor)
มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง หรือ D.C. Motor (Direct Current Motor) ใช้กระแสไฟฟ้ากระแสตรงในการทำงาน โครงสร้างหลักประกอบด้วย:
-
สเตเตอร์ (Stator): ส่วนที่สร้างสนามแม่เหล็ก โดยมักจะมีขดลวดสนาม (Field Coil)
-
โรเตอร์ (Rotor): ส่วนที่หมุน มีขดลวดอาร์เมเจอร์ (Armature Coil) และแปรงถ่าน (Brush) เพื่อส่งกระแสไฟฟ้าเข้าไปในขดลวด
ชนิดของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง
-
Shunt DC Motor:
-
ขดลวดสนามและขดลวดอาร์เมเจอร์ต่อแบบขนาน
-
มีแรงบิดปานกลางและความเร็วรอบคงที่
-
เหมาะสำหรับเครื่องเจาะและเครื่องกลึง
-
-
Series DC Motor:
-
ขดลวดสนามและขดลวดอาร์เมเจอร์ต่อแบบอนุกรม
-
มีแรงบิดสูง เหมาะสำหรับงานยกของและมอเตอร์ขับเคลื่อนรถไฟฟ้า
-
-
Compound Motor:
-
มีขดลวดสนามสองชุดที่ต่อทั้งแบบอนุกรมและขนาน
-
มีแรงบิดสูงกว่า Shunt DC Motor และมีความคงที่มากกว่า Series DC Motor
-
ใช้ในงานตัดโลหะและเครื่องกดอัด
-
การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า
มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ
การควบคุมความเร็วและทิศทางการหมุนของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับสามารถทำได้หลายวิธี เช่น:
-
การควบคุมความเร็ว:
-
แบบเลือกความเร็ว: ปรับความเร็วเป็นระดับต่ำหรือสูง
-
แบบหมุนเรียงลำดับ: เริ่มต้นที่ความเร็วต่ำก่อนและค่อยเพิ่มขึ้นไปที่ความเร็วสูง
-
-
การควบคุมทิศทางการหมุน:
-
ใช้สวิตช์หรือรีเลย์เปลี่ยนทิศการหมุนของมอเตอร์
-
มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง
การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงมีวิธีการดังนี้:
-
การควบคุมความเร็ว:
-
ปรับแรงดันที่จ่ายให้มอเตอร์
-
ใช้วงจร Pulse Width Modulator (PWM) ควบคุมช่วงกว้างของพัลซ์ไฟฟ้า
-
-
การควบคุมแรงบิด:
-
ปรับกระแสที่ผ่านขดลวดอาร์เมเจอร์และสเตเตอร์
-
-
การควบคุมทิศทางการหมุน:
-
สลับขั้วแหล่งจ่ายไฟด้วยมือหรือใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์
-
การใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าในปัจจุบัน
ในปัจจุบันมอเตอร์ไฟฟ้าถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม ตัวอย่างการใช้งาน ได้แก่:
-
งานอุตสาหกรรม:
-
มอเตอร์อินดักชันใช้ในเครื่องจักรงานหนัก เช่น เครื่องปั๊ม เครื่องบด และเครื่องจักรกล
-
-
งานระบบควบคุมอัตโนมัติ:
-
มอเตอร์ซิงโครนัสในระบบควบคุมความเร็ว
-
-
งานหุ่นยนต์:
-
มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงขนาดเล็กในหุ่นยนต์ที่ใช้แรงดันต่ำ เช่น +1.5 ถึง +12V
-
-
เครื่องใช้ไฟฟ้า:
-
พัดลม ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน
-
มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลเพื่อใช้ในงานต่าง ๆ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับเหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพและความทนทานในอุตสาหกรรม ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงมีความยืดหยุ่นสูงและเหมาะกับงานที่ต้องการแรงบิดมากหรือการควบคุมความเร็วที่ละเอียด ความเข้าใจในชนิดของมอเตอร์และวิธีการควบคุมจะช่วยให้สามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด